วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การแชร์ Internet ADSL ด้วย ICS (Internet Connection Sharing)

0 ความคิดเห็น

ในยุคสมัยนี้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหรือ ADSL หลายคนต้องมีใช้งานในบ้านกันอยู่แล้ว แต่ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของจำนวนรหัสผ่านมีเพียงชุดเดียว แต่ว่าภายในบ้านมีเครื่องคอมพ์มากกว่า 1 เครื่อง ที่ต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตพร้อมๆ กัน นอกเหนือจากการใช้งานเครือข่ายไร้สายแล้ว ผมก็มีวิธีการตั้งค่าแชร์อินเทอร์เน็ต ADSL แบบง่ายๆ มาให้ลองใช้งานกันดูกัน ตามมากันเลย

อันดับแรก ก็คงต้องทำให้เครื่องให้สามารถออกอินเทอร์เน็ตได้ก่อน โดยเครื่องนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องมีก็คือโมเด็มเอาไว้สำหรับต่ออินเทอร์เน็ต โดยตัวเครื่องต้องมีระบบเน็ตเวิร์กติดตั้งเอาให้เรียบร้อยก่อน สิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้ก็คือการแชร์ ICS ซึ่งเป็นฟังก์ชันมาตรฐานสำหรับวินโดวส์เอ็กซ์พีให้ทำงานขึ้นมา ขั้นตอนแรกก็ง่ายๆ ครับ ก่อนอื่นให้เซตอัพการ์ดเน็ตเวิร์กในเครื่องแรกให้มีการเซตอัพค่าหมายเลข IP ก่อน โดยการทำขั้นตอนดังนี้

1. เริ่มแรกคลิกที่ปุ่มสตาร์ต เลือกที่ Control Panelจากนั้นให้เลือกที่ Network Connections

2. คลิกเมาส์ปุ่มขวาที่ Local Area Connection เลือกที่ Properties แล้วก็จะปรากฏหน้าต่าง Properties ของเน็ตเวิร์กขึ้นมา

3. ให้กำหนดค่าของหมายเลขไอพีให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่จะออกอินเทอร์เน็ต โดยให้เลือกที่ TCP/IP จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Properties เพื่อเตรียมกำหนดค่า IP Address โดยเมื่อหน้าต่าง TCP/IP Properties

4. จากนั้นกำหนดหมายเลข IP ให้กับเครื่องเป็น 192.168.0.1 เพื่อกำหนดให้เป็นเครื่องแรก จากนั้นป้อนค่า Subnet Mark โดยให้มีค่าเป็น 255.255.255.0

5. จากนั้นไปกำหนดการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ซึ่งในที่นี้เราใช้การ Dial up ออกสู่อินเทอร์เน็ต ดังนั้นควรจะติดตั้งโมเด็มและสร้าง Connection สำหรับโมเด็มให้เรียบร้อยก่อนที่เข้าสู่การแชร์อินเทอร์เน็ต

วิธีการแชร์อินเทอร์เน็ต

1. เริ่มต้นคลิกที่ปุ่มสตาร์ต จากนั้นเลือก Control Panel แล้วเลือกที่ Network Connection เช่นเดิม

2. ต่อมาให้คลิกขวาที่ไอคอนของไดอัลอัพที่เราจะใช้โมเด็มหมุนออกอินเทอร์เน็ตต่อไปและเลือกที่ Properties

3. จากนั้นให้เลือกที่แท็บ Advanced เพื่อกำหนดการแชร์อินเทอร์เน็ต จะเห็นหน้าต่างของการแชร์อินเทอร์เน็ตขึ้น โดยจะอยู่ในกรอบ Internet Connection Sharing ที่นี้ก็ให้เราคลิกเช็กบ็อกซ์เลือกที่ "Allow other network users to connect through this computer's internet connection" ซึ่งก็จะปรากฏหัวข้ออีกสองอันขึ้นมา

"Establish a dial-up connection whenever a computer on my network attempts to access the internet" "หัวข้อนี้จะหมายความว่า จะยอมให้คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ที่ต่ออยู่กับเน็ตเวิร์กนั้น สามารถไดอัลอัพโมเด็มที่อยู่ในเครื่องหลัก เพื่อออกสู่อินเทอร์เน็ตได้ หากว่าต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตหรือไม่ หากต้องการให้ต้องไดอัลผ่านคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ได้ ก็ให้เช็กบ็อกซ์ที่อยู่ด้านหน้า หรือหากไม่ต้องการก็ให้เอาออกไป

"Allow other network users to control or disable the shared internet connection" หมายถึงว่าให้ผู้ใช้บนเครื่องอื่นๆ นั้น สามารถควบคุมหรือยกเลิกการแชร์อินเทอร์เน็ตในเครื่องหลักได้หรือเปล่า ซึ่งหากไม่ต้องการก็ให้เอาออกไปเช่นเดียวกัน โดยตามปกตินั้น ให้เราเอาหัวข้อทั้งสองออก โดยไม่ต้องไปเช็กบ็อกซ์ นั่นเอง

หลังจากนี้ก็ให้ปิดหน้าต่างทุกหน้าต่างลง เท่านี้การเซตอัพเครื่องสำหรับเตรียมให้บริการแชร์อินเทอร์เน็ตเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ขั้นตอนการเซตอัพเครื่องในระบบเครือข่าย

หลัง จากที่เซตอัพเครื่องหลักเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องมาถึงการเซตอัพเครื่องลูกข่ายเพื่อให้ใช้อินเทอร์เน็ตที่แชร์เอาไว้ บ้างล่ะครับ ซึ่งก็เรียกว่าไม่แตกต่างไปจากการเซตอัพเครื่องหลักมากนัก โดยเราจะเน้นกันที่การเซตอัพเน็ตเวิร์กเป็นหลักซึ่งสิ่งที่ต้องการสำหรับ เครื่องลูกนี้ก็คือการ์ดเน็ตเวิร์กที่เซตอัพเรียบร้อยสามารถทำงานได้เท่า นั้น โดยเครื่องนี้เราไม่ต้องมีโมเด็มก็ได้ เพราะไม่จำเป็นแล้ว

เริ่ม ต้นด้วยการกำหนดหมายเลขไอพี สำหรับเครื่องที่ 2 โดยทำขั้นตอนเหมือนกับการเซตอัพเครื่องเซิร์ฟเวอร์ แต่เปลี่ยนหมายเลขไอพีให้เป็น 192.168.0.2 แทน โดยกำหนดให้หมายเลข 2 ตัวสุดท้ายที่เปลี่ยนแปลงนั้นหมายถึงเลข IP ประจำเครื่องที่ 2 และหากมีเครื่องมากกว่านี้ ก็ให้กำหนดเพิ่มขึ้นไป เช่น 3, 4, 5 ... นั่นเอง

หลัง จากที่เรากำหนดหมายเลขไอพีเรียบร้อยแล้ว ก็ลองเช็กดูว่าเครื่องที่ใช้อยู่นั้น มีหมายเลข IP ตามที่กำหนดหรือไม่ โดยการคลิกที่ปุ่มสตาร์ต จากนั้นเลือกที่ RUN แล้ว พิมพ์คำว่า Command ลงไป ให้ลองตรวจสอบหมายเลขไอพี โดยพิมพ์คำว่า "IPCONFIG" ลงไปที่คอมมานพรอมต์ ซึ่งหากไม่มีอะไรผิดพลาด ก็จะปรากฏหมายเลข IP พร้อมกับหมายเลข Subnet Mark

ที่นี้ลองตรวจสอบดูว่าเครื่องที่เราเซต อัพอยู่นี้ สามารถมองเห็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการแชร์อินเทอร์เน็ตหรือไม่ โดยการใช้คำสั่ง PING ไปที่ เครื่องหลัก โดยสั่งว่า PING 192.168.0.1 ที่คอมมานพรอมต์ เพื่อตรวจสอบแพ็กเกจข้อมูล เมื่อเครื่องลูกสามารถมองเห็นเครื่องแม่แล้ว

ทีนี้เราก็เหลือขั้นตอน การเซตอัพอยู่อีกขั้นตอนเดียวก็คือการเซตอัพคอนฟิกในIE เพื่อให้ตรวจสอบ Proxy โดยอัตโนมัติ ซึ่งขั้นตอนก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเช่นเดียวกัน ขั้นตอนแรกก็เรียก IE ขึ้นมา และให้คลิกที่เมนู Tools และเลือกที่ Internet Options...

จาก นั้นให้คลิกที่แท็บ Connections แล้วคลิกที่ปุ่ม LAN Settings ซึ่งอยู่ในส่วนของ Local Area Network (LANs) Settings ให้คลิกเช็กบ็อกซ์ "Automatically detect setting" เพื่อกำหนดให้ตรวจสอบ Proxy Server โดยอัตโนมัติ

หลังจากนี้ก็ให้คลิกที่ปุ่ม OK และออกจากการเซตอัพ Internet Options นี้ ซึ่งเท่านี้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มากกว่าสองเครื่องในบ้านคุณ ก็พร้อมจะใช้งานอินเทอร์เน็ตได้โดยใช้แอ็กเคานต์และคู่สายโทรศัพท์เพียงคู่ เดียว บนวินโดวส์เอ็กซ์พีแล้ว

CIO นำธงความสำเร็จสู่องค์กร

0 ความคิดเห็น

ผลวิจัยชี้ CIO มีบทบาทต่อความสำเร็จขององค์กรสูง นอกจากภารกิจด้านการพัฒนาควบคุมและดูแลระบบสารสนเทศในองค์กรแล้ว ยังมีบทบาทด้านการวางแผนยุทธศาสตร์ด้วย

จากการ จัดทำวิจัยเพื่อศึกษาถึง “บทบาทของผู้บริหารระดับสูงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีผลต่อความสำเร็จของ องค์กร” ซึ่งจัดทำโดย eENTERPRISE ร่วมกับศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาผู้นำสังคม ธุรกิจ และการเมือง (ระบบการศึกษาทางไกลทางอินเทอร์เน็ต) วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่าผู้บริหารระดับสูงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในองค์กร (ซีไอโอ) มีบทบาทในระดับมากในองค์กร ซึ่งนอกจากบทบาทในหน้าที่แล้วยังมีบทบาทในด้านการวางแผนยุทธ์ศาสตร์ในองค์กร อีกด้วย

โดยการทำวิจัยในครั้งนี้ใช้การวิเคราะห์จากการตอบแบบสอบถาม ของบรรดาซีไอโอที่อยู่ภายใต้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ International Academy of CIO สถาบันผู้บริหารระดับสูงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของภาครัฐ ในเขตกรุงเทพมหานครฯ และปริมณฑล จำนวน 364 คน ซึ่งได้ข้อสรุปเป็นค่าเฉลี่ยดังจะได้กล่าวต่อจากนี้

จากการสำรวจพบว่า เพศชาย คิดเป็นร้อยละ 84.3 มีอายุระหว่าง 31-40 ปี คิดเป็นร้อยละ 43.7 รองลงมามีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน มากกว่า 40,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 90.9 มีอายุงานปัจจุบัน 15 ปี คิดเป็นร้อยละ 50.0 ส่วนใหญ่มีการศึกษาในระดับปริญญาโท คิดเป็นร้อยละ 64.0 และมีประสบการณ์ทำงานมากกว่า 15 ปี คิดเป็นร้อยละ 53.6 ตามตารางประกอบ 1 (ข้อมูลผู้ตอบแบบสอบถาม)

CIO บทบาทที่มากกว่าหน้าที่หลัก

โดย การสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทของซีไอโอต่อความสำเร็จขององค์กรนั้นพบ ว่า หน้าที่หลักมีผลต่อความสำเร็จต่อองค์กรอยู่ในระดับมากตามลำดับ ดังนี้ ด้านการควบคุมดูแลระบบงาน ด้านการพัฒนาระบบงาน ด้านการตระหนักถึงลูกค้าและการให้บริการ ส่วนบทบาทต่อการวางแผนยุทธศาสตร์ขององค์กรซึ่งไม่ได้เป็นหน้าที่โดยตรงแต่มี ผลต่อความสำเร็จขององค์กรเป็นลำดับที่สี่ ขณะที่ด้านการพัฒนาบุคลากรนั้นมีนัยสำคัญอยู่แต่องค์กรไม่ได้ให้ความสำคัญ เรื่องนี้มากนัก โดยสรุปคือองค์กรจึงควรพัฒนาบทบาทของซีไอโอเพื่อให้องค์กรมีความสำเร็จมาก ขึ้น

แต่อย่างไรก็ตามการสำรวจในครั้งนี้ประเด็นที่น่าสังเกตุ คือเมื่อเปรียบเทียบบทบาทกับเพศ ปรากฎว่า เพศมีผลต่อความสำเร็จในองค์กรด้านการวางแผนยุทธศาสตร์ แต่ไม่มีผลต่อด้านอื่นๆ ได้แก่ด้านการควบคุมดูแลระบบงาน ด้านการพัฒนาระบบงาน ด้านการตระหนักถึงลูกค้าและการให้บริการ และด้านการพัฒนาบุคลากร ดังนั้นอธิบายได้ว่า ในสังคมไทยเพศหญิงยังไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องที่สำคัญ โดยจะเห็นได้ว่าเพศมีผลเฉพาะด้านการวางแผนยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นหัวใจของการ ดำเนินธุรกิจขององค์กร

โดยผลสำรวจดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ การสำรวจบทบาทของซีไอโอในระดับอาเซียน ซึ่งพบว่า 94% ของประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ (ซีไอโอ) ในอาเซียนระบุว่า บทบาทของซีไอโอในอาเซียนมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นในภาคธุรกิจ โดยหากวัดความเป็นผู้นำขององค์กรจากความสามารถของบุคลากรและทักษะความเป็น ผู้นำแล้ว พบว่า ยังคงตามหลังการจัดการและทักษะทางเทคโนโลยีของประเทศต่างๆ ในอาเซียน

นอกจากนี้ผลสำรวจซีไอโอในอาเซียนนั้ง ซีไอโอยังตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาบทบาทของตนเองจากผู้นำทางด้านไอที ไปสู่บทบาทผู้นำทางด้านธุรกิจ ซึ่งมีความชำนาญในการบริหารจัดการ การกำหนดกลยุทธ์ และการปกครองผู้ใต้บังคับบัญชา(อ่านข้อมูลผลการสำรวจเพิ่มเติมใน โพลล์อาเซียนชี้ CIO สำคัญต่อภาคธุรกิจ)

จากผลการสำรวจบทบาทของซีไอโอ ต่อความสำเร็จขององค์กรของ eENTERPRISE และวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ในครั้งนี้ ยังได้รับความเห็นจากข้อเสนอแนะต่างๆ ที่กล่าวถึงบทบาทของซีไอโอที่มีผลต่อความสำเร็จขององค์กรจากผู้ตอบแบบสอบถาม อีกด้วย โดยข้อมูลระบุว่า “ซีไอโอต้องรู้เรื่องธุรกิจมากขึ้นไม่ได้เน้นเรื่องเทคนิคด้านเดียว” ขณะที่ข้อเสนอแนะของซีไอโอผู้ตอบแบบสอบถามอีกท่านกล่าวว่า “ซีไอโอเป็นหน้าที่ที่ยากมาก ต้องอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ต้องรู้จักธุรกิจ และทิศทางธุรกิจ” (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมใน ข้อชี้แนะ CIO ต้องรู้เรื่องธุรกิจ )

นอกจากนี้ในแบบสอบถามยังได้ผลในรายละเอียด เกี่ยวกับขีดความสามารถขององค์กรต่อระดับความคิดเห็นกับผลสัมฤทธิ์ ซึ่งในแบบสอบถามให้ซีไอโอแสดงความคิดเห็นใน 5 ระดับคือ 1-5 โดย 1 = ระดับน้อยที่สุด, 2 = ระดับน้อย, 3 = ระดับปานกลาง, 4 = ระดับมาก และ 5 = ระดับมากที่สุด ซึ่งผลที่ออกมาว่า การมุ่งเน้นการบริหารจัดการด้านการพัฒนาระบบไอทีให้ประหยัดพลังงานนั้นอยู่ ในระดับปานกลาง แสดงความองค์กรยังไม่ได้ให้ความสำคัญด้านนี้มากนัก

เช่น เดียวกับในประเด็นการจัดการงบประมาณในด้านการวางแผนต้นทุนการใช้งานนอกระบบ (outsourcing) ยังอยู่ในระดับปานกลาง แปลว่าองค์กรไม่ได้ให้ความสำคัญด้านดังกล่าวเท่านั้น (โปรดดูรายละเอียดในตารางประกอบ 2 ข้อมูลระดับแปลผลของผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับขีดความสามารถของ องค์กร)

จาก ตาราง ข้อมูลระดับแปลผลของผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับบทบาทซีไอโอในองค์กร (ดูตารางประกอบ 3) มีนัยสำคัญด้านการพัฒนาบุคลากร ซึ่งหากองค์กรให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมให้บุคลากรสอบใบรับรองสารสนเทศด้าน ต่างๆ ที่สนับสนุนความเชี่ยวชาญในระบบมากขึ้น และหากมีการกำหนดเส้นทางการเติบโตในสายงานอาชีพด้วย จะช่วยยกระดับบุคลากรในสายงานไอทีนั่นเอง


ข้อชี้แนะ CIO ต้องรู้เรื่องธุรกิจ

จาก ข้อเสนอแนะในตอนท้ายของแบบสอบถามของการสำรวจบทบาทซีไอโอพบความคิดเห็นที่ เสนอแนะในหลายด้าน ซึ่งมีส่วนที่สอดคล้องกับบทบาทซีไอโอต่อความสำเร็จขององค์กร คือซีไอโอควรมีความรู้ด้านธุรกิจควบคู่ไปกับหน้าที่หลักจะยิ่งทำให้องค์กร ประสบความสำเร็จมากขึ้น ทั้งนี้ได้นำแนวคิดจากซีไอโอผู้ตอบแบบสอบถามแต่ละท่านมาถ่ายทอดดังนี้

  • ซี ไอโอต้องรู้เรื่องธุรกิจมากขึ้นไม่ได้เน้นเรื่องเทคนิคด้านเดียว รวมถึงให้ความรู้และพัฒนาคน จัดระเบียบคนทั้งด้านการใช้งาน ผลกระทบและความสามารถ สำหรับองค์กรเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีหลักคิดที่ดี มี framework ที่ดี รู้ว่าอะไรควรกำหนดในระดับนโยบาย ระดับปฏิบัติ บางเรื่องต้องมีเทคโนโลยีมาช่วยในการปฏิบัติงานมีขั้นตอนในการตรวจสอบที่ทำ ให้มั่นใจว่าทุกคนสามารถปฏิบัติตามได้อย่างสม่ำเสมอ หากปรุงแต่งส่วนผสมให้เหมาะสมจึงจะเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จขององค์กร รวมถึงการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง แลกเปลี่ยนและต่อยอด เพื่อลดต้นทุนและรับประกันความสำเร็จในการขับเคลื่อน
  • การสร้างความสำคัญให้องค์กรเห็นประโยชน์การใช้ไอทีอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาองค์กรไปสู่การใช้งานระบบออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ
  • ซี ไอโอเป็นหน้าที่ที่ยากมาก ต้องอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ต้องรู้จักธุรกิจ และทิศทางธุรกิจ ตลอดจนถึง chain ที่เกี่ยวเชื่อมโยง ต้องทำหน้าที่ change agent ไปพร้อมๆ กับ ต้องเก่ง communicate ; collaborate ; consolidate ; connected คน กระบวนการ และ เทคโนโลยี ให้สอดคล้องซึ่งกันและกัน โดยต้องมีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง อยู่เสมอ ( continuous change & improvement ) โดยต้องสร้างและพัฒนาทายาท อย่างต่อเนื่อง ให้สู้คู่แข่ง ประเทศใกล้เคียงให้ได้
  • ควรเน้นแนวทางในการดำเนินงาน ด้านนวัตกรรมและร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และสังคมอย่างเท่าเทียบกัน
  • ควรสร้างมาตรฐานในองค์กรให้สอดคล้องกับนโยบายและขั้นตอนการดำเนินงานด้านไอที
  • ต้อง ติดตามและเอาใจใส่ต่อระบบงานสารสนเทศที่ใช้งานอยู่โดยตลอด เพื่อให้เกิดการดูแลรักษาระบบโดยทีมงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดความพึงพอใจแก่ผู้ใช้บริการ มีการติดตามวิทยาการใหม่ๆ และให้โอกาสทีมงานได้ทดสอบวิทยาการเหล่านั้น ก่อนจะพิจารณานํามาใช้จริง
  • ซี ไอโอต้องกําหนดนโยบายการประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศ ให้กับหน่วยงานภายในองค์กรอย่างทั่วถึง ศึกษากฎระเบียบของภาครัฐที่เกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทั้ง ที่มีผลบังคับใช้แล้วและที่หลังจะประกาศตามมา เพื่อนํามาปรับปรุงระบบสารสนเทศที่ดูแลอยู่ ให้มีความสามารถสอดคล้องกับกฎระเบียบต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดการปฏิบัติผิดกฎหมายขึ้นในองค์กร

โดยผลสำรวจชี้ ให้เห็นถึงแนวคิดของซีไอโอในยุคปัจจุบันที่แตกต่างจากอดีตที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าความเปลี่ยนแปลงในบทบาทของซีไอโอที่มากขึ้นและสำคัญขึ้นนั้น ไม่ต่างไปจากการที่องค์กรจะต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดด้านการพัฒนาระบบไอที จากที่ในอดีตมองว่าเป็นต้นทุน แต่ในยุคนี้ต้องมองเป็นการลงทุนเพื่อพัฒนาองค์กร ทั้งนี้เนื่องจากไอทีเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินธุรกิจไปแล้ว

โพลล์อาเซียนชี้ CIO สำคัญต่อภาคธุรกิจ

การ สำรวจความคิดเห็นของซีไอโอในระดับอาเซี่ยนที่กล่าวข้างต้น เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างสถาบันอินซีแอด (INSEAD) และไอบีเอ็มเมื่อช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยได้ทำการในการสำรวจความเป็นผู้นำของซีไอโอในอาเซียนในประเทศสมาชิกอา เซียน 6 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ระบุว่า บทบาทของซีไอโอในอาเซียนมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นในภาคธุรกิจ

โดยด้าน การจัดการความสามารถของบุคลากร ซีไอโอมองว่าบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเป็นปัจจัยหลักในการเสริมสร้าง องค์กร ทั้งนี้ซีไอโอในอาเซียนเชื่อว่านอกเหนือจากการบริหารจัดการและดูแลพนักงาน ฝ่ายไอทีโดยรวมแล้ว ตนเองยังมีบทบาทในการระบุและบ่มเพาะความสามารถของบุคลากรอีกด้วย 80.4% ของผู้ตอบแบบสำรวจเห็นด้วยว่าการระบุและการพัฒนาบุคลากรฝ่ายไอทีถือเป็นส่วน สำคัญในการปฏิบัติงานในฐานะซีไอโอ

ส่วนด้านการจัดการความเปลี่ยน แปลงและลูกค้า ซีไอโอตระหนักว่าควรมีการจัดการการเปลี่ยนแปลงในฝ่ายไอทีภายในกรอบโครงสร้าง ที่เหมาะสมสำหรับการบริหารองค์กรและงานไอทีอย่างโปร่งใส นอกจากนี้ ผู้บริหารระดับซีไอโอในอาเซียนยังชี้ว่า การปรับปรุงประสบการณ์และความพึงพอใจของลูกค้าทั้งภายในและภายนอกองค์กรถือ เป็นหนึ่งในงานสำคัญที่สุดของซีไอโอ นอกเหนือจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่มีเสถียรภาพและประหยัดค่าใช้ จ่าย

ด้านการจัดการความหลากหลายนั้นบรรดาซีไอโอต่างยอมรับว่าไอที เป็นเครื่องมือสำคัญ และยังต้องรับรู้ถึงความจำเป็นของระดับความเป็นผู้นำในเชิงคุณภาพ กล่าวคือ คุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งของผู้นำแบบ “e-leader” ในระบบเศรษฐกิจแห่งองค์ความรู้ (Knowledge Economy) ก็คือ ความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับผลกระทบของเครือข่ายสารสนเทศที่มีต่องค์กร สังคม และวัฒนธรรม

นอกจากนี้ซีไอโอในภูมิภาคอาเซียนยังมองว่าตนเอง เป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงที่มีความสำคัญถึง 88.5% ขณะที่ความเข้าใจในระบบงานธุรกิจถือเป็นเรื่องดี ปัจจุบันซีไอโอจำเป็นที่จะต้องเข้าใจกระบวนการทางธุรกิจ ทั้งยังต้องสามารถกำหนดมาตรฐานและลดความยุ่งยากซับซ้อนในระบบงานดังกล่าว

ทั้ง นี้ 76.7% ของผู้ตอบแบบสำรวจในระดับอาเซี่ยนระบุว่า ประสบการณ์ทางด้านการดำเนินธุรกิจถือเป็นเกณฑ์สำคัญในการรับสมัครซีไอโอใน ปัจจุบัน นอกจากนั้น 81.2% ยังชี้ว่า ความพร้อมทางด้านทรัพยากรถือเป็นจุดแข็งประการหนึ่งในแนวทางการพัฒนาความ เป็นผู้นำ

ขณะที่ด้านความตระหนักรู้ (Awareness) โดยทั่วไปแล้ว ซีไอโอในอาเซียนตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาบทบาทของตนเองจากผู้นำทางด้าน ไอที ไปสู่บทบาทผู้นำทางด้านธุรกิจ ซึ่งมีความชำนาญในการบริหารจัดการ การกำหนดกลยุทธ์ และการปกครองผู้ใต้บังคับบัญชา แต่กระนั้น บรรดาผู้บริหารคนอื่นๆ รวมถึงคู่ค้าและลูกค้าของบริษัท มักจะละเลยความสำคัญดังกล่าว รวมทั้งประเด็นเรื่องประโยชน์ที่จะได้รับจากการพัฒนาบทบาทนี้ เช่น การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และความสำเร็จโดยรวมขององค์กร

การ ที่เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันมีวงจรการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการผลิตที่สั้นลง ทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงลำดับชั้นของผู้ผลิต ผู้ขาย และผู้ซื้ออย่างต่อเนื่อง นั่นหมายความว่าองค์กรต่างๆ จำเป็นที่จะต้องตัดสินใจเรื่องที่เกี่ยวข้องภายในเวลาอันรวดเร็ว และดังนั้นจึงเพิ่มแรงกดดันให้แก่ซีไอโอมากยิ่งขึ้น การระบุโอกาสใหม่ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยี ตลาด รูปแบบธุรกิจ และโครงสร้างบริษัท เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวันในองค์กรทั่วโลกที่มีความคล่องตัวสูงและประสบ ความสำเร็จในการดำเนินงาน และซีไอโอก็มีบทบาทสำคัญอย่างมากในเรื่องนี้

ข้อ เสนอในผลสำรวจระบุว่าวิธีหนึ่งในการพัฒนา ‘ซีไอโอที่ดี’ สำหรับภูมิภาคอาเซียนก็คือ การเสริมสร้างทักษะใหม่ๆ ให้แก่ซีไอโอ ทั้งนี้ผลการสำรวจชี้ว่า ซีไอโอในอาเซียนได้ขยายขอบเขตทักษะทางวิชาชีพและความสนใจในด้านต่างๆ ซึ่งช่วยปรับปรุงขีดความสามารถในการสื่อสารกับบุคลากรในแผนกอื่นๆ ภายในองค์กร รวมถึงคู่ค้า ลูกค้า และซัพพลายเออร์

ธันวา เลาหศิริวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ได้กล่าวสรุปถึงการสำรวจความคิดเห็นในครั้งนี้ว่า หลายๆ องค์กรจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงทัศนคติและมุมมองในเรื่องบทบาทของไอที จากเดิมที่มองว่าไอทีเป็นแหล่งที่มาของค่าใช้จ่าย แต่ในปัจจุบัน หลายๆ ฝ่ายเริ่มตระหนักว่าไอทีคือกลจักรสำคัญในการเสริมสร้างขีดความสามารถในการ แข่งขัน ทั้งยังช่วยกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจ ไอบีเอ็มมีประวัติที่ยาวนานในเรื่องของการประสานงานร่วมกับซีไอโอจากทั่วทุก มุมโลก เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจโดยอาศัยเทคโนโลยี และเรายังมีส่วนผลักดันบทบาทของซีไอโอให้ก้าวขึ้นสู่สถานะของผู้บริหารระดับ สูงเพื่อความสำเร็จในอนาคตอีกด้วย

โน้ตบุ๊กสเป็กดีมีสไตล์ในราคาเบาๆ

0 ความคิดเห็น

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ก่อนหน้านี้ ทางเว็บไซต์เพิ่งได้แนะนำโน้ตบุ๊กจอใหญ่(16 นิ้ว)สเป็กดี ในขณะที่ดีไซน์สวยงามสะดุดตาแถมยังบางเบากว่าโน้ตบุ๊กในตลาดที่มีขนาดเท่า กันอย่าง IdeaPad Y650 ไปแล้ว ล่าสุดทางบริษัทได้ปรับราคาของ IdeaPad Y450 รุ่นน้องเล็ก(ขนาดจอ 14 นิ้ว)ที่มีดีไซน์ และสเป็กในระดับราคาที่เกินห้ามใจอีกต่างหาก

IdeaPad Y450 โน้ตบุ๊กดีไซน์ใหม่จาก Lenovo ที่ยังคงความสะดวกสบายของคีย์บอร์ด และซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นมา เพื่อใช้งานเครื่องได้อย่างสะดวกสบาย เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการโน้ตบุ๊ก เครื่องแรกที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพด้วย Intel Core 2 Duo หน่วยความจำ 2GB (เพิ่มได้ถึง 8GB) และฮาร์ดดิสก์ 320GB พร้อมฟังก์ชันการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 802.11 a/g/n และบลูทูธ นอกจากนี้ยังตอบโจทย์ความบันเทิงด้วยลำโพงสเตอริโอ 2 วัตต์ในระบบเสียง Dolby® Home Theater™ 2 Ceritification โดยล่าสุดราคา เริ่มต้นอยู่ที่ 799 เหรียญฯ (ประมาณ 29,500 บาท) ซึ่งด้วยสเป็กระห่ำขนาดนี้กับราคาต่ำกว่าสามหมื่น ต้องยอมรับว่า Lenovo IdeaPad Y450 น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

พิเศษสุดๆ !!! ใครที่ซื้อโน้ตบุ๊กของเลอโนโวที่มาพร้อมกับ Vista ตอนนี้ จะได้รับสิทธิ์อัพเกรดเป็น Windows 7 ฟรี!!! พลาดไม่ได้จริงๆ

สำหรับ ผู้สนใจโน้ตบุ๊กและพีซีของเลอโนโว สามารถรับชมและเป็นเจ้าของได้ในงาน COMMART X'GEN 2009 บริวณทางเดินหน้าทางเข้าเพลนารี่ฮอล์ และทางเข้าที่จดอดรถด้านหลัง(ดังแสดงตำแหน่งในรูป) ได้ตั้งแต่วันที่ 2 - 5 กรกฎาคม ศกนี้ ณ. ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

www.buzzidea.tv

vista: ทำไงให้"คลิกเดียว"เวิร์ก?

0 ความคิดเห็น

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ถาม: หนู มีคำถามค่ะ ทำไมเครื่องคอมพิวเตอร์ของเพื่อน เวลาใช้วินโดวส์ ไม่เห็นเขาต้องดับเบิ้ลคลิ้ก(double click)เลย แค่คลิกเดียวโปรแกรมก็เปิดทำงานแล้ว แต่ของหนูไม่เป็นอย่างของเพื่อนค่ะ ทั้งๆ ทีใช้ Windows Vista เหมือนกัน

ตอบ: ไม่ เคยคิดเลยครับว่า จะมีผู้ใช้ที่ยังสนใจคุณสมบัติการทำงานที่เรียกว่า "Single Click" กันอยู่ เพราะเท่าที่จำได้ ตัวผมเองเคยใช้คุณสมบัติการทำงานนี้ใน Active Desktop ของ IE4 ซึ่งส่วนตัวแล้ว รู้สึกไม่ค่อยสะดวก และคุ้นเคยสักเท่าไร อย่างไรก็ดี คุณสมบัติการทำงานนี้ ยังคงมีให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ได้ เรื่อยมาจน XP หรือแม้แต่ Windows Vista ครับ

สำหรับ ขั้นตอนการตั้งค่าการทำงานแบบ Single Click แบบที่เพื่อนของน้องใช้อยู่ สามารถทำได้โดย คลิกปุ่ม Start เลือก Control Pranel จากนั้นคลิกเลือก Classic View ดับเบิ้ลคลิ้กบนไอคอน Folder Options เลือกเรดิโอบัตตันหน้าหัวข้อ Single-click to open an item (point to select) ดังรูป คลิกปุ่ม Apply แล้ว OK เพียงแค่นี้ น้องก็สามารถใช้คลิกเดียว เพื่อเปิดโปรแกรมที่ต้องการได้เหมือนของเพื่อนแล้วล่ะครับ

Download: ปลุกวินโดวส์ขึ้นมาทำสิ่งดีๆ

0 ความคิดเห็น

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] สำหรับคอลัมน์ Download วันนี้ มีโปรแกรมยูทิลิตี้เล็กๆ มาฝากคุณผู้อ่านกันอีกแล้วครับ โดยเฉพาะผู้ใช้ที่ชื่นชอบการตั้งค่าให้ระบบปฏิบัติการอย่าง Windows XP หรือ Vista ทำงานบางอย่างให้โดยอัตโนมัติ

หากคุณผู้อ่านที่ติดตามทิป-เทคนิค จากเว็บไซต์ เอ.อาร์.ไอ.พี อยู่เป็นประจำก็คงจะจำได้ว่า เราเคยพูดถึงวิธีตั้งเวลาให้ระบบชัตดาวน์ได้โดยอัตโนมัติ แต่มันจะดีกว่าไหม? หากเราสามารถปลุกเครื่องให้ตื่นจากโหมด"นอนหลับ-จำศิล" (Standby และ Hibernate) ลุกขึ้นมาทำสิ่งดีๆ ที่เป็นประโยชน์กับเราได้ อย่างเช่น ดาวน์โหลดอีเมล์ใหม่ หรือเล่นเพลงเพราะๆ ที่เราชื่นชอบ เป็นต้น

ถ้าคุณชอบการทำงานในลักษณะนี้ ขอแนะนำให้ลองดาวน์โหลดยูทิลิตี้ที่มีชื่อว่า WOSB (Wake On Standby) มาใช้ดูนะครับ โดยผู้ใช้จะสามารถสั่งให้ WOSB รันโปรแกรมต่างๆ ได้ หลังจากที่ระบบปฏิบัติการตื่นขึ้นมาจากโหมดสแตนด์บาย ตามชื่อเรียกของโปรแกรมตัวนี้ได้โดยอัตโนมัติ

windows: Ctrl-Alt-Del ก่อนล็อกออน?

0 ความคิดเห็น

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ถาม: ทำไม Windows Vista ที่หนูใช้อยู่ บอกให้กดปุ่ม Ctrl-Alt-Del ก่อน จึงจะล็อกออน (log on) ได้ มันเป็นเพราะอัพเดตของไมโครซอฟท์ที่เพิ่งส่งมา หรือเปล่า? หรือเครื่องของหนูมีปัญหาคะ?

ตอบ: ทั้ง Vista และ Windows 7 จะมีระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้น ซึ่งการที่มันต้องการให้ผู้ใช้กดปุ่ม Ctrl+Alt+Del เวลาล็อกออน ก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งของระบบรักษาความปลอดภัย แต่ที่น่าแปลกก็คือ ปกติขั้นตอนนี้จะไม่ถูกเปิดให้ทำงาน และการอัพเดตระบบก็ไม่น่าจะเข้าไปจัดการกับเรื่องนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ขั้นตอนที่เพิ่มขึ้นมา ไม่ได้เป็นเพราะระบบปฏิบัติการมีปัญหาแต่อย่างใด และเราก็สามารถยกเลิกขั้นตอนนีได้

ใน กรณีของ Vista และ Windows 7 ให้คลิ้กปุ่ม Start แล้วพิมพ์คำสั่ง NETPLWIZ เข้าไปในช่อง Search (หรือกดปุ่ม Windows+R แล้วพิมพ์คำสั่ง CONTROL USERPASSWORDS2) คลิ้กแท็บ Advanced แล้วคลิ้กยกเลิกเช็คบ๊อกซ์หน้าข้อความ "Require users to press Ctrl+Alt+Delete" แล้วคลิ้กปุ่ม OK ก็เป็นอันเรียบร้อย แต่ถ้าเป็น Windows XP จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการคลิ้ก "Change the way users log on or off" จากบริการ User Accounts ใน Control Panel

Security: ป้องกันไวรัสโจมตี MSN

0 ความคิดเห็น

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ถาม: ดิฉันใช้โปรแกรม MSN Live Messenger อยู่ค่ะ แต่ระยะหลังมันชอบมีข้อความแปลกๆ เข้ามา เข้าใจว่าน่าจะเป็นพวกไวรัส ก็รำคาญอยู่เหมือนกัน แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร พอจะมีตัวช่วย หรือป้องกันเหล่าร้ายพวกนี้ออกไปบ้างไหมคะ?

ตอบ: Windows Live Messenger ซึ่งหลายคนเรียก MSN Live Messenger โปรแกรมสื่อสารทันใจ (Instant Messengers) ที่ได้รับความนิยมมากทีสุดบนระบบปฏิบัติการ Windows และนั่นก็เป็นสาเหตุสำคัญด้วยที่ทำให้มันตกเป็นเป้าหมายของเหล่ามัลแว ร์ต่างๆ รวมถึงสแปม สำหรับวิธีป้องกัน แนะนำให้ลองติดตั้ง WLM Safe ที่ได้รับการพัฒนาออกมาเพื่อใช้ป้องกัน Windows Live Messenger จากเหล่าร้ายภัยคุกคามต่างๆ โดยเฉพาะ น่าจะช่วยให้ชีวิตออนไลน์ของคุณปกติสุขขึ้นนะครับ

สำหรับการติดตั้ง WLM Safe ผู้ใช้จะต้องติดตั้งส่วนเพิ่มเติมของโปรแกรมยอดฮิตอย่าง Messenger Plus for Windows Live Messenger เสียก่อน WLM Safe จะมาพร้อมกับโมดูลที่ป้องกันมัลแวร์ต่างๆ มากมาย เช่น

  • แอนตี้ไวรัส (Anti-Virus) : ตรวจจับ และป้องกันลิงค์ที่ส่งเข้ามาในหน้าต่างสนทนาโดยไวรัส
  • แอนตี้ฟิชชิ่ง (Anti-Phishing) : ตรวจจับ และกันลิงค์ฟิชชิ่งที่ส่งเข้ามาโดยไวรัส
  • แอนตี้สแปม (Anti-Spam) : ป้องกันสแปมเมสเสจที่ส่งเข้ามาโดยคอนแท็คส์ของคุณ
  • แอนตี้ฟลัด (Anti-Flood) : ตรวจจับการโจมตีแบบตะลุมบอนข้อความเข้ามา
  • แอนตี้ฟรีซ (Anti-Freeze) : กันข้อความต่างๆ ที่ทำให้ Messenger เวอร์ชันเก่าๆ ล่มได้
  • แอนตี้ก็อปปี้ (Anti-Copy) : แจ้งเตือนหากพบหนึ่งในผู้ติดต่อแอบก็อปปี้ Nickname ของคุณไปใช้
  • แอนตี้บ็อต (Anti-Bot) แจ้งเตือนเมื่อคุณกำลังแชตกับบ็อต ไม่ใช่ผู้ใช้ตัวจริง
  • แอนตี้แฮคเกอร์ (Anti-Hackers) : แจ้งเตือนเมื่อคุณกำลังแชตอยู่กับผู้ติดต่อที่ไม่ปลอดภัย

โปรแกรม รักษาความปลอดภัยสำหรับ MSN Live Messenger มาพร้อมกับฟังก์ชันอื่นๆ อีกมากมายที่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้อีกด้วย เช่น ลดการใช้หน่วยความจำของโปรแกรม ลบข้อมูลตกค้างในแคช หรือตรวจดูโพรเซสทั้งหมดของระบบปฏิบัติการ ตัวเลือกการทำงานอื่นๆ ก็จะมีการล็อค MSN Messenger จากการถูกแอบใช้โดยผู้ใช้คนอืนๆ และป้องกันการถอดถอนสคริปท์ใน IM อีกด้วย

แต่ง blog ให้เจ๋งตอน 1

0 ความคิดเห็น

เคยบอกว่าจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับการแต่ง blog ไว้นานแล้วแต่ก็ไม่มีโอกาส นำมาบอกเล่าเสียที มีเวลาว่างเลยรื้อเอามาเขียนเก็บไว้ครับ

ผมขอแบ่งการตกแต่งออกเป็น สองตอนนะครับ โดยตอนแรกเป็นส่วนของการจัดการ template อีกตอนจะเป็นการจัดองค์ประกอบอื่น ๆ
วิธีการ

๑. ก่อนอื่นเราต้องสำรองข้อมูล template ก่อน กันพลาด... โดยเริ่มจากเข้าไปในส่วน admin คลิ๊กที่ รูปแบบ -> แก้ไข HTML คลิกที่ ดาวน์โหลดแม่แบบฉบับเต็ม ให้จัดเก็บ template ที่เราใช้อยู่ให้เรียบร้อย

๒. ไปดาวน์โหลด template สำหรับ blogger ที่มีให้เลือกมากมายจากที่นี่

๓. template ที่ดาวน์โหลดมาและสามารถนำเอาไปใช้ได้จะต้องมีนามสกุล .xml แต่บางเว็ป จะอยู่ในรูปไฟล์ .zip ก็ให้ทำการแตกไฟล์ ออกให้เรียบร้อย ซึ่งพอแตกไฟล์ออกแล้วจะต้องได้ไฟล์นามสกุล .xml คิดว่าถึงตอนนี้คงได้ template ที่พอใจสักตัวนะครับ
๔. ที่เมนูเดิม คือ รูปแบบ -> แก้ไข HTML คราวนี้เราจะอัปโหลด template ใหม่ขึ้นไป โดยจัดการ browse เลือกไฟล์ .xml ที่เตรียมไว้ จากนั้นคลิก อัปโหลด


๕. ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด (ย้ำ....หากไม่มีอะไรผิดพลาดนะครับ) โปรแกรมจะแจ้งว่าอัปโหลดเรียบร้อย ให้เลื่อนหน้าจอไปด้านล่าง จะเห็นปุ่ม "แสดงตัวอย่าง" ถ้ายังไม่พอใจก็จัดการปรับเปลี่ยนให้เรียบร้อย (ถึงตรงนี้อาศัยความรู้เรื่อง css พอสมควร)
๖. เมื่อเรียบร้อยแล้ว ก็จัดการบันทึก template โดยคลิกที่ปุ่ม บันทึกเทมเพลต เราก็จะได้เทมเพลตแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร เอาไว้เชยชม ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕

เพิ่มเติมอีกหน่อย....
ทุก blog ใน blogger จะมีหัว blog ที่เรียกว่า navbar ผมรู้สึกไม่ชอบไอ้เจ้านี่เลย
ก็เลยจัดการซ่อนมันซะ วิธีการก็ง่ายแสนง่าย โดยเข้าไปแก้ไข HTML เช่นเดิม และจัดการแทรกโค้ดต่อไปนี้ลงในส่วนของ style sheet

 

BLOGSDESING FOR YOU | Copyright 2009 Tüm Hakları Saklıdır | Blogger Template by GoogleBoy ve anakafa | Sponsored by Noow!